วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ระบบประสาท


ระบบประสาท (Nervous System) คือ ระบบการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ ทำให้สัตว์สามารถตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างรวดเร็ว  ช่วยรวบรวมข้อมูลเพื่อให้สามารถตอบสนองได้   สัตว์ชั้นต่ำบางชนิด เช่น ฟองน้ำ  ไม่มีระบบประสาท  สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิดเริ่มมีระบบประสาท  สัตว์ชั้นสูงขึ้นมาจะมีโครงสร้างของระบบประสาทซับซ้อนยิ่งขึ้น  ระบบประสาทของมนุษย์แบ่งออกเป็น  2  ส่วน คือระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
      
ระบบประสาทส่วนกลาง
                    ระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System หรือ  Somatic Nervous System ) เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของร่างกาย  ซึ่งทำงานพร้อมกันทั้งในด้านกลไกและทางเคมีภายใต้อำนาจจิตใจ  ซึ่งประกอบด้วยสมองและไขสันหลัง  โดยเส้นประสาทหลายล้านเส้นจากทั่วร่างกายจะส่งข้อมูลในรูปกระแสประสาทออกจากบริเวณศูนย์กลาง  มีอวัยวะที่เกี่ยวข้องดังนี้
                    

                    1.  สมอง(brain)  เป็นส่วนที่ใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ ของระบบประสาทส่วนกลาง  ทำหน้าที่ควบคุมการทำกิจกรรมทั้งหมดของร่างกาย  เป็นอวัยวะชนิดเดียวที่แสดงความสามารถด้านสติปัญญา การทำกิจกรรมหรือการแสดงออกต่างๆ สมองของสัตว์มีกระดูกสันหลังที่สำคัญแบ่งออกเป็น  3  ส่วนดังนี้
                        1.1  เซรีบรัมเฮมิสเฟียร์ (Cerebrum Hemisphere) คือ สมองส่วนหน้า  ทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรู้สึกและอารมณ์  ควบคุมความคิด  ความจำ  และความเฉลียวฉลาด เชื่อมโยงความรู้สึกต่างๆ เช่น การได้ยิน  การมองเห็น การรับกลิ่น  การรับรส  การรับสัมผัส  เป็นต้น                       

                       1.2  เมดัลลาออบลองกาตา (Medulla Oblongata)  คือ ส่วนที่อยู่ติดกับไขสันหลัง  ควบคุมการทำงานของระบบประสาทอัตโนวัติ  เช่น  การหายใจ  การเต้นของหัวใจ  การไอ  การจาม
           การกะพริบตา  ความดันเลือด เป็นต้น
                       1.3  เซรีเบลลัม (Cerebellum) คือ สมองส่วนท้าย  เป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัว ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ  เช่น การเดิน  การวิ่ง  การขี่จักรยาน  เป็นต้น




               2. ไขสันหลัง (Spinal Cord) เป็นเนื้อเยื่อประสาทที่ทอดยาวจากสมองไปภายในโพรงกระดูกสันหลัง กระแสประสาทจากส่วนต่างๆ ของร่างกายจะผ่านไขสันหลัง  มีทั้งกระแสประสาทเข้า และกระแสประสาทออกจากสมอง  และกระแสประสาทที่ติดต่อกับไขสันหลังโดยตรง


               3.  เซลล์ประสาท (Neuron)  เป็นหน่วนที่เล็กที่สุดของระบบประสาท  เซลล์ประสาทมีเยื่อหุ้มเซลล์ไซโทพลาสซึมและนิวเคลียสเหมือนเซลล์อื่นๆ แต่มีรูปร่างและลักษณะแตกต่างออกไปเซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์และเส้นใยประสาทที่มี  2  แบบคือ เดนไดรต์ (Dendrite) ทำหน้าที่นำกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์และแอกซอน (Axon) ทำหน้าที่นำกระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ไปยังเซลล์ประสาทอื่นๆ เซลล์ประสาทจำแนกตามหน้าที่การทำงานได้  3 ชนิด คือ

                         3.1  เซลล์ประสาทรับความรู้สึก  รับความรู้สึกจากอวัยวะสัมผัส  เช่น จมูก  ตา  หู  ผิวหนัง  ส่งกระแสประสาทผ่านเซลล์ประสาทประสานงาน

                         3.2  เซลล์ประสาทประสาน เป็นตัวเชื่อมโยงกระแสประสาทระหว่างเซลล์รับความรู้สึกกับสมอง  ไขสันหลัง  และ เซลล์ประสาทสั่งการ พบในสมองและไขสันหลังเท่านั้น

                         3.3  เซลล์ประสาทสั่งการ  รับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง  เพื่อควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ




 การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
                สิ่งเร้าหรือการกระตุ้นจัดเป็นข้อมูลที่เส้นประสาทนำไปยังระบบประสาทส่วนกลาง เรียกว่า “กระแสประสาท” เป็นสัญญาณไฟฟ้าที่นำไปสู่เซลล์ประสาททางด้านเดนไดรต์ และเดินทางออกอย่างรวดเร็วทางด้านแอกซอน  แอกซอนส่วนใหญ่มีแผ่นไขมันหุ้มไว้เป็นช่วงๆ แผ่นไขมันนี้ทำหน้าที่เป็นฉนวนและทำให้กระแสประสาทเดินทางได้เร็วขึ้น  ถ้าแผ่นไขมันนี้ฉีกขาดอาจทำให้กระแสประสาทช้าลง  ทำให้สูญเสียความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อ  เนื่องจากการรับคำสั่งจากระบบประสาทส่วนกลางได้ไม่ดี

ระบบประสาทรอบนอก

                ระบบประสาทรอบนอก (peripheral nervous system)  ทำหน้าที่รับและนำความรู้สึกเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง  ได้แก่  สมองและไขสันหลัง  จากนั้นนำกระแสประสาทสั่งการจากระบบประสาทส่วนกลางไปยังหน่วยปฏิบัติงาน  ซึ่งประกอบด้วยหน่วยรับความรู้สึกและอวัยวะรับสัมผัส  รวมทั้งเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่อยู่นอกระบบประสาทส่วนกลาง  

                ระบบประสาทรอบนอกจำแนกตามลักษณะการทำงานได้  2  แบบดังนี้

                 1.  ระบบประสาทภายใต้อำนาจจิตใจ  เป็นระบบควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่บังคับได้รวมทั้งการตอบสนองต่อสิ่งเร้า    ภายนอก

                 2.  ระบบประสาทนอกอำนาจจิตใจ  เป็นระบบประสาทที่ทำงานโดยอัตโนวัติ  มีศูนย์กลางควบคุมอยู่ในสมองและไขสันหลัง  ได้แก่  การเกิดรีเฟลกซ์แอกชัน(reflex action) และเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นที่อวัยวะรับสัมผัสเช่น ผิวหนัง  กระแสประสาทจะส่งไปยังไขสันหลัง  และไขสันหลังจะสั่งการตอบสนองไปยังกล้ามเนื้อโดยไม่ผ่านไปที่สมอง ดังรูป เมื่อมีเปลวไฟมาสัมผัสที่ปลายนิ้ว  กระแสประสาทจะถูกส่งผ่านไปยังไขสันหลังโดยไม่ผ่านไปยังสมอง  ไขสันหลังทำหน้าที่สั่งการให้กล้ามเนื้อที่แขนเกิดการหดตัว  เพื่อดึงมือออกจากเปลวไฟทันที



พฤติกรรมของมนุษย์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า                  
                พฤติกรรมการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของมนุษย์เป็นปฏิกิริยาอาการที่แสดงออกเพื่อการตอบโต้ต่อสิ่งเร้าทั้งภายในและภายนอกร่างกาย  เช่น                 -  สิ่งเร้าภายในร่างกาย  เช่น ฮอร์โมน  เอนไซม์  ความหิว  ความต้องการทางเพศ เป็นต้น                 -  สิ่งเร้าภายนอกร่างกาย  เช่น แสง  เสียง  อุณหภูมิ  อาหาร  น้ำ  การสัมผัส  สารเคมี  เป็นต้น                กิริยาอาการที่แสดงออกเพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกอาศัยการทำงานที่ประสานกันระหว่างระบบประสาท  ระบบกล้ามเนื้อ  ระบบต่อมไร้ท่อ  และระบบต่อมมีท่อ  ดังตัวอย่างต่อไปนี้                
                1.  การตอบสนองเมื่อมีแสงเป็นสิ่งเร้า
                     -  เมื่อได้รับแสงสว่างจ้า  มนุษย์จะมีพฤติกรรมการหรี่ตาเพื่อลดปริมาณแสงที่ตาได้รับ
                2.  การตอบสนองเมื่ออุณหภูมิเป็นสิ่งเร้า
                     -  ในวันที่มีอากาศร้อนจะมีเหงื่อมาก เหงื่อจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายเพื่อปรับอุณหภูมิภายในร่างกายไม่ให้สูงเกินไป
                     -  เมื่อมีอากาศเย็นคนเราจะเกิดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ  หรือ เรียกว่า”ขนลุก”
                3.  เมื่ออาหารหรือน้ำเข้าไปในหลอดลมเกิดพฤติกรรมการไอหรือจาม เพื่อขับออกจากหลอดลม                4.  การเกิดพฤติกรรมแบบรีเฟลกซ์  เป็นพฤติกรรมการตอบสนองหรือตอบโต้ทันทีเพื่อความปลอดภัยจากอันตราย เช่น                     -  เมื่อฝุ่นเข้าตามีพฤติกรรมกะพริบตา                    

                     -  เมื่อสัมผัสวัตถุร้อนจะชักมือจากวัตถุร้อนทันที                     
                     -  เมื่อเหยียบหนามจะรีบยกเท้าให้พ้นหนามทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น